เชื่อหรือไม่ว่า องค์ประกอบเล็กๆง่ายๆที่ใช้งานกันอยู่ทุกวี่วันในบ้านอบ่าง “ประตูและหน้าต่าง” ไม่ว่าจะก่อน – ระหว่าง – หรือหลังการก่อสร้าง ก็ยังเป็นปัญหาให้เจ้าของบ้านต้องกลุ้มใจอยู่เสมอๆแถมคำตแบก็ยังคลุมเครือเล่าลือกันไปนาๆจนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจะมาหาคำตอบที่ดีที่สุดมาให้คุณลูกค้าใช้แก้ข้อสงสัยกับปัญหายอดฮิตเหล่านี้

ประตูภายนอก

ประตูหน้าบ้านหรือประตูหลังบ้านควรเปิดจากภายในสู่ภายนอก เพื่อไม่ให้น้ำฝนหรือน้ำค้างที่เกาะตรงบานประตูไหลเปียกเข้ามาในบ้าน โดยทั่วไประดับของพื้นในบ้านจะสูงกว่าระดับของพื้นหน้าบ้าน การเปลี่ยนระดับที่กึ่งกลางวงกบล่างของประตูจะช่วยป้องกันน้ำ ฝุ่น และแมลงที่อาจเข้ามาได้ในตัวโดยไม่ต้องติดอุปกรณ์เสริม

สำหรับบ้านที่มีความเชื่อว่าประตูหน้าบ้านต้องเปิดเข้าในบ้านเท่านั้น สามารถแก้ปัญหาเรื่องแมลงและฝุ่่นเข้าบ้านได้โดยติดยางกันฝุ่นใต้บานประตู แต่ไม่สามารถป้องกันน้ำที่เกาะอยู่ตรงบานประตูไม่ให้เปียกเลอะพื้นบ้านหน้าประตูเวลาเปิดเข้าได้

ประตูภายใน

ประตูห้องต่างๆที่่ติดกับส่วนกลาง เช่น ทางเดินหรือโถงกลาง ควรเปิดเข้าในห้องนั้นๆเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ด้านในเปิดออกมาโดนคนข้างนอก

ส่วนประตูห้องน้ำควรออกแบบให้เปิดเข้าด้านในเช่นกัน เพราะห้องน้ำมีการลดระดับเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาเปียกพื้นที่ด้านนอก บานประตูควรลอยสูงจากพื้นระดับของห้องน้ำเล็กน้อยเพื่อป้องกันการผุพัง

แบบบานประตู

ที่มา บ้านและสวน

วงกบหน้าต่างเกล็ดไม้ – มู่ลี่ไม้

หายไปนาน วันนี้มาพร้อมกับวงกบเกล็ดไม้แบบเก่าที่เอามาเล่าใหม่ค่ะ วงกบเกล็ดไม้โดยปกติก็จะเป็นเกล็ดไม้ที่ขยับไม่ได้ ปรับเองโดยเจ้าของไม่ได้  พอดีมีลูกค้าที่ชื่นชอบงานไม้มาสั่งวงกบที่่สามารถปรับมุม ปรับองศาได้ (คล้ายๆมู่ลี่) โดยทีแกนกลางของวงกบเป็นตัวบังคับองศา ซึ่งงานไม้ในลักษณะนี้เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน  การทำเป็นวงกบเกล็ดปรับองศาได้ระหว่างห้อง ลักษณะคล้ายมู่ลี่แต่แลดูหนักแน่นและคลาสสิกมากกว่ามูลี่ (กรณีนี้เป็นความชอบส่วนบุคคลนะคะ) ดูจากคลิปแล้ว วงกบไม้ที่สามารถปรับองศาได้แบบนี้น่าสนใจมั๊ยล่ะคะ สนใจโทรสอบถามทางร้านได้นะคะ 🙂

สั่งทำวงกบเกล็ดไม้

การเลือกซื้อประตู:

เมื่อต้องการซื้อบานประตูไม้จริง หลายคนมักมีคำถามว่า จะเลือกแบบไหนดี เลือกไม้อะไรถึงจะเหมาะ แล้วจะทนทานรึเปล่า เดินเข้าไปในร้านขายประตู ก็มีแบบประตูและชนิดของไม้ตั้งเยอะ ตัดสินใจไม่ถูก ทางทีมงานมีข้อแนะนำในการเลือกซื้อประตูมาฝากค่ะ

1. ตำแหน่งของการติดตั้ง: ก่อนอื่นเลย เราต้องดูว่าตำแหน่งของการติดตั้งประตูนีั้อยู่บริเวณใดของบ้าน โดนแดดโดนฝนมากรึเปล่า

– กรณี ตำแหน่งของการติดตั้งอยู่ภายนอก: เราควรเลือกชนิดไม้ที่มีความสามารถในการทนแดด ทนฝนได้ดี เช่น ไม้สัก หรือ ไม้มะค่า

– กรณี ตำแน่งของการติดตั้งอยู่ภายใน: เราสามารถเลือกไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สยาแดง ไม้ทุเรียน ไม้นาตาเซีย ซึ่งมีราคาย่อมเยาว์กว่า

2.  ลักษณะการใช้งาน: นอกจากการเลือกชนิดของเนื้อไม้แล้ว เราควรเลือกแบบของประตูให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของเราด้วย

– ถ้าเป็นห้องที่ต้องการความมิดชิด ควรเลือกแบบประตูเป็นบานทึบ แต่หากต้องการให้ห้องนั้นๆมีแสงสว่างส่องเข้าถึง ก็ควรเลือกแบบปานประตูเป็นแบบที่มีประจก อาจจะเป็นกระจกทั้งบาน หรือบานส่วนก็ได้   (ดูแบบบานประตู)

– สำหรับห้องที่ต้องการให้มีการระบายถ่ายเทของอากาศ เช่น ห้องน้ำ เราก็สามารถเลือกแบบของบานประตูเป็นแบบมีเกล็ดไม้ เพื่อช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ สามารถเลือกได้ทั้งแบบเกล็ดไม้ทั้งบาน หรือเป็นเกล็ดไม้บางส่วนก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของเลยค่ะ

3. การเลือกขนาดของบานประตู: ถ้าเป็นการซื้อบานเพื่อไปเปลี่ยนกับบานเก่าที่ชำรุด หรือ กรณีที่ซื้อวงกบไว้แล้ว เราต้องเลือกขนาดบานให้พอดีกับขนาดวงกบ แต่ถ้าเป็นการติดตั้งวงกบใหม่ด้วยและยังไม่ได้ซื้อวงกบ เราสามารถกำหนดความกว้างสูง ของบานตามความต้องการได้เลยค่ะ

4. ลวดลายของบานประตู: ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกแบบตามความชอบ รสนิยมส่วนตัวได้เลยค่ะ หรืออาจจะดูจากรูปแบบการตกแต่งห้องโดยรวมเพื่อให้รูปแบบไปด้วยกันกับรูปแบบ สไตล์ของห้องนั้นๆค่ะ

5. งบประมาณ: งบประมาณก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อประตูไม้ เพราะจะเป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถซื้อประตูที่มีคุณภาพมากน้อยเพียงได้

– กรณีที่มีงบประมาณจำกัด เราอาจจะเลือกชนิดของไม้ของประตูที่ใช้ภายในบ้านเป็นประเภทของไม้เนื้อแข็ง เป็นต้น