วงกบไม้ ประตูไม้ หน้าต่างไม้ for the ‘เกร็ดความรู้:เกี่ยวกับบ้าน’ Category

เรื่องของบันไดกับฮวงจุ้ย(2)

“ห้ามวางตำแหน่งบันไดอยู่กลางบ้าน”

ตำราฮวงจุ้ยอธิบายไว้ว่า ตำแหน่งนี้จะำทำให้เจ้าของบ้านอยู่ไม่ติดบ้าน เป็นประเภทชีพจรลงเท้า เนื่องจากบันไดเป็นลักษณะของการเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งนั่นเอง นอกจากนี้ เจ้าของบ้านยังอาจเป็นโรคหัวใจได้ง่ายอีกด้วย เพราะตำแหน่งหัวใจมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา จริงๆแล้วการมีบันไดอยู่กลางบ้านยังมีข้อเสียทำให้การจัดบ้านทำได้ยาก เพราะมีบันไดตั้งขวางอยู่ จะทำบ้านดูแคบอีกด้วย

“ห้ามทำบันไดเวียนในบ้าน”

บันไดเวียนมีรูปทรงคล้านสว่านเจาะพื้น หลักฮวงจุ้ยห้ามนำบันไดลักษณะนี้มาไว้ในบ้าน เพราะถือว่าไม่เป็นมงคล ความจริงแล้วเหตุผลที่ไม่ให้ทำบันไดเวียนก็เพราะว่า ลักษณะของบันไดมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะขั้นบันไดจะมีลักษณะกว้างและแคบไม่เท่ากัน และบันไดเวียนอาจทำให้คนเดินขึ้นหรือลงพลอยเวียนหัวตามบันไดไปด้วย ซึ้งหลักฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า กระแสการไหลเวียนไม่ราบรื่นนั่นเอง

แต่ประโยชน์ของบันไดเวียนก็ยังมี นั่นคือช่วยในเรื่องการประหยัดพื้นที่ กรณีบ้านเล็กมีพื้นที่จำกัด บันไดเวียนส่วนใหญ่จึงเหมาะกับใช้นอกตัวบ้านมากกว่า เช่นทางขึ้นดาดฟ้าที่เดินขึ้นจากนอกบ้านได้

เรื่องของบันไดกับฮวงจุ้ย

เมื่อพูดถึง “บันได” คนส่วนใหญ่มักมองข้าม และไม่ค่อยให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้ว บันไดถือเป็นจุดที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นจดที่เชื่อมต่อระหว่างชั้น เป็นการถ่ายเทพลังงานจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบน ดังนั้นในทางฮวงจุ้ยจึงมีข้อบัญญัติเกี่ยวกับบันไดอยู่พอสมควร ลองมาดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง

“ห้ามวางบันไดตรงกับประตูเข้าบ้าน ทรัพย์จะไหลออก”

ฟังแบบนี้หลายคนคงไม่ชอบแน่ ต้องรีบหันไปดูบันไดในบ้านว่าตรงกับประตูรึเปล่า ภาษาฮวงจุ้ยจะอธิบายว่า เวลาชื่ไหลเข้าบ้าน ก็จะถูกผลักออกมา เพราะกระแสจากบันไดที่เทเข้าหาประตู เรียกว่าหาเงินเท่าไหร่ก็ไม่มีเหลือ

แต่ถ้าอธิบายในแบบที่มีเหตุผลหน่อยก็จะบอกว่า การที่บันไดตรงกับประตูทำให้เก็บเงินไม่อยู่นั้น น่าจะมาจากเวลาเดินลงบันไดมาแล้วมองเห็นประตู ก็นึกอยากจะออกนอกบ้านมากกว่าอยู่บ้าน การออกนอกบ้านแต่ละทีก็มีแต่เรื่องเสียเงินทั้งนั้น

ถ้าบ้านใครเข้าข่ายนี้ วิธีแก้ก็ไม่ยากค่ะ แค่หาฉากหรือตู้มาวางคั่นระหว่างบันไดกับประตูก็ช่วยได้แล้ว ไม่ถึงกับย้ายบันไดหนี ซึ่งทำได้ยากมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของบันได จะไปกระทบพื้นที่ชั้นบนทั้งหมด

ที่มา Home & Style

 

มาแต่งบ้านอารมณ์รีสอร์ทกันดีกว่า(5)

มาถึง โพสสุดท้าย สำหรับการแต่งบ้านอารมณ์รีสอร์ทแล้วนะคะ เป็นยังไงบ้างค่ะ ตอนนี้ได้ไอเดียใหม่ๆในการแต่งบ้านที่เหมาะสมกับบ้านของคุณรึยังคะ  ว่าแล้วเรามาดูในรายละเอียดของ ต้นไม้ ใบหญ้า และ การเพิ่มชีวิตชีวาด้วยเสียง กันต่อเลยดีกว่าค่ะ

ต้นไม้ ใบหญ้า:

หากบ้านพอมีบริเวณกว้าง คุณสิริชัยแนพนำให้ปลูกต้นไม้โดยคำนึงถึงทิศทางลม ทิศทางแดด และความร้อนประกอบกัน เช่น ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาได้ดี กิ่งก้านเยอะ ควรอยู่ในทิศใต้หรือทิศตะวันตกซึ่งจะช่วยบังแดดได้ดี

การเลือกต้นไม้ให้พิจารณาพื้นที่ที่จะปลูก ดูว่่ามีแสงแดดส่องตรงมากน้อยเพียงใด หากมีแสงมาก และคุณต้องการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เช่น ประดู่ ทองกวาว คูร ตะแบก หรือประเภททรงพุ่มสวยงามและชอบแดด เช่นเฟื่องฟ้า โมก ไม้ดัด ไม้แคระ หรือจะเป็นไม้ดอกที่ถูกแดดจัดตลอดวันได้ เช่น ยี่โถ กุหลาบ ดาวเรือง เข็ม ดาวกระจาย ชวนชม แต่ถ้าเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยเจอแสงแดด อาจถูกชายคาหรือเงาของข้างบ้านบังไว้ ให้เลือกปลูกพืชในร่ม หรือพืชที่ชอบแสงรำไร เช่น บอนสี สาวน้อยประแป้ง

การปลุกต้นไม้ ดอกไม้นอกบ้านนอกจากจะช่วยให้บ้านเย็นเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ข้างต้นในเรื่องของการขยายมุมมองออกมาจากภายในบ้านด้วยเช่นกัน เมื่อคุณนั่งอยู่ในบ้าน มองผ่านทางหน้าต่างออกมาเห็นสวนสวยๆ มีร่มเงา สลับกับไม้พุ่ม และดอกไม้ คงน่าชื่นใจไม่น้อย

เพิ่มชีวิตชีวาด้วยเสียง:

เสียงน้ำไหล และเีสียงนกร้อง เป็นเสียงธรรมชาติที่คุณจำลองมาใช้ในบริเวณบ้านได้โดยไม่สิ้นเปลืองนัก ทั้งยังช่วยให้เพลิดเพลินเสริมสร้างสมาธิได้ดี หากมีพื้นที่เพียงพอ บ่อเลี้ยงปลาสวยงามก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะปลาที่ว่ายไปมา ความเคลื่อนไหวของน้ำ ช่วยเพิ่มความมีชิวิตชีวา และสร้างบรรยากาศภายในบ้านได้

การแต่งบ้านให้อยู่สบาย และผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ทนั้นไม่ได้มีข้อจำกัดตายตัวว่า ผนัง ประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้พิจารณาเรื่องบรรยากาศโดยรวมและความชอบของคุณเป็นสำคัญ เพียงเท่านี้ก็คงไม่มีที่ไหนที่คุณจะพักผ่อนได้อย่างสุขใจเท่ากับที่บ้านอีกแล้ว

ที่มา Home & Garden