เรื่องของแสง:

การเปิดบ้านให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาบ้างไม่เพียงช่วยคุณประหยัดค่าไฟ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมมุมมองจากภายในออกสู่ภายนอก ซึ่งช่วยสร้างอารมณ์ของการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี เพียงแค่มองออกไปด้านนอก

นอกจากแสงธรรมชาติแล้ว แสงสังเคราะห์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คุณสิริชัยแนะนำให้เลือกใช้ Indirect Light หรือไฟซ่อน ที่มีเพียงแสงเรืองๆให้เห็น และให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวลมากกว่าการโชว์ให้เห็นหลอดไปเปลือยๆ วิธีง่ายสุดที่คุณทำได้ และไม่แพงคือ บังหลอดไฟด้วย Shade หรือที่ครอบไฟ

การขยายมุมมองออกสู่ภายนอก:

เมื่อพูดถึงพื้นที่ภายนอก ไม่ว่าคุณจะอยู่คอนโด ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยว และไม่ว่าจะมีพื้นที่มากน้อยเพียงใด ก็อย่าจำกัดตัวเองไว้แต่พื้นที่ภายในบ้าน แต่ควรเปิดโล่งให้สามารถมองออกข้างนอกบ้านได้ด้วย หน้าต่างหรือ ประตูกระจกบานโต จะช่วยให้พื้นที่ในบ้านของคุณดูกว้างกว่าความเป็นจริง แม้พื้นที่จะไม่กว้าง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องดูอึดอัดเสมอไป

โพสหน้าจะเป็นสองหัวข้อสุดท้าย ของการแนะนำในการแต่งบ้านอารมณ์รีสอร์ท ในเรื่องของ ต้นไม้ใบหญ้า และ การเพิ่มชีวิตชีวาด้วยเสียง เจอกันโพสหน้านะคะ

ที่มา Home & Style

หลังจากเตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็จะเป็นขั้นตอนการคัดแยกของแต่งบ้านที่จะนำมาใช้

การคัดแยกของแต่งบ้านที่จะนำมาใช้:

บ้านที่อยู่อาศับมาระยะเวลาหนึ่ง มีกจะมีข้าวของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอถึงเวลาที่คุณต้องการที่จะสร้างบรรยากาศใหม่ให้กับบ้าน คุณก็จำเป็นที่จะต้องคัดสรรของแต่งบ้านที่จะพอเข้าพวกกันได้ ที่สำคัญต้องไม่มากชิ้นจนเกินไป ลองนึกถึงเวลาที่เดินเข้ามา ที่ของกี่ชิ้นที่สะดุดตาคุณในการแต่งบ้าน มักมีการกำหนดจุดรวมสายตาหลักของพื้นที่ หรือ Focal Point ซึ่งจะส่งต่อความต่อเนื่องไปยังส่วนประกอบอื่นๆที่เหลือ ดังนั้น จึงไม่เป็นกา่รดีหากจะมีข้าวของแข่งกันเด่น แย่งความสนใจคุณพร้อมกันหลายๆชิ้นในเวลาเดียว เพราะความสงบ สบาย ผ่อนคลาย จะเกิดขึ้นได้ยาก

คุมโทนสี:

ไม่มีการปรับแต่งเปลี่ยนใดที่จะให้ผลชัดเจน และประหยัดได้เท่ากับการทาสีบ้านใหม่ เมื่อเป้าหมายที่สำคัญอยู่ที่ การสร้างบรรยากาศให้มีกลิ่นอายของธรรมชาติเช่นเดียวกับรีสอร์ทในต่างจังหวัด คำแนะนำของคุณสิริชัยคือ ให้ใช้สีที่่คุณเห็นอยู่ตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ หรือก้อนหิน สีเหล่านี้ก็เช่น สีเขียว สีน้ำตาล เน้นให้เป็นสีโทนเบ็นไ้ว้ก่อนเพื่อผลในทางอารมณ์ที่สงบ และผ่อนคลาย

นอกจากนี้ สีที่แนะนำได้แก่ สีกลุ่ม natural หรือสีกลาง อันได้แก่ สีดำ สีเทา สีครีม สีขาว ซึ่งจะทำให้คุณสามารถจัดองค์ประกอบของเฉดสี เช่น อ่อน-แก้ เข้ม-จาง ทำให้พื้นที่นั้นๆ มีมิติและสีสัน ในบรรยากาศมากขึ้น

อย่างไรก็ตามสำหรับคุณที่ชอบสีในโทนร้อน อาทิ สีแดง สีส้ม สีเหลือง หากจะนำมาใช้ก็สามารถทำได้ เพราะรสนิยมของผู้อยู่อาศัยถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆในการตกแต่ง แต่เพื่อให้บรรยากาศโดยรวมสงบ และผ่อนคลาย คุณสิริชัย แนะนำว่าให้นำสีโทนร้อนมาใช้แต่น้อย กล่าวคือ ประมาณ ร้อยละ 20 ของสีทั้งหมดที่คุณเลือกใช้

โพสหน้าเราจะมาเจาะลึกในหัวข้อ การเน้นวัสดุธรรมชาติ และ การให้ความสำคัญกับความต่อเนื่อง พลาดไม่ได้นะคะ 🙂

ที่มา นิตยสาร Home & Style

เน้นวัสดุธรรมชาติ:

ธรรมชาติมีพลังประหลาดที่สามารถเยียวยาคุณได้ เป็นอิืทธิพลที่มีผลต่ออารมณ์ และจิตใจมนุษย์ ดังนั้น การเลือกวัสดุจากธรรมชาติที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา เช่น หิน กรวด ทราย ไม้ น้ำ เส้นใยจากธรรมชาติ ปูนเปลือย ซึ่งมีผิวสัมผัสชัดเจน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานตกแต่ง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะนำเอาเสน่ห์และพลังลึกลับของธรรมชาตินั้นเข้าไปใช้ในบ้านได้

ให้ความสำคัญกับการต่อเนื่อง:

มาถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน สิ่งที่คุณต้องไม่ลืมคือ ต้องไม่กีดขวางทางเดินในบ้าน ลองจินตนาการตัวคุณขณะเดินเข้าบ้านมา ทิศทางการเดินของคุณเป็นอย่างไร จากนั้นสิ่งที่ต้องดูต่อไปคือ เมื่อคุณทอดสายตาไปทั่วห้อง มีอะไรบ้างที่กีดขวางสายตาคุณอยู่ เลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต่ำทึบไม่ตัน และไม่เทอะทะเพื่อเปิดโอกาสให้คุณสามารถมองได้อย่างทั่วตลอด และไม่รู้สึกอึดอัด

เจอกันโพสถัดไป ในเรื่องของแสง และ การขยายมุมมองออกสูภายนอก ซึ่งจะทำให้บ้านของคุณดูกว้างมากกว่าความเป็นจริง

ทีมา Home & Style